ในเวลาที่มีคนสงสัยว่า "สกรีน DFT คืออะไร" ผมก็มักจะอธิบายสั้น ๆ ว่า มันคือเทคนิคพิมพ์ลวดลายลงบนฟิล์มแล้วนำไปรีดลงบนผ้า ที่ลักษณะใกล้เคียงกับ DTF แต่ก็มีความต่างบางส่วน ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้หลายคนสับสน
(https://i.postimg.cc/XvqQPpMm/A1.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)
พอมีคนพูดถึง DTF และ DFT หลายคนอาจจะงงว่ามันต่างกันอย่างไร บางทีก็พูดแทนกันได้ แต่ในความหมายที่ถูกต้องแล้ว DTF หมายถึง Direct to Film ส่วน DFT ในที่นี้บางคนหมายถึง Direct Film Transfer หรือบางร้านใช้เรียกงานพิมพ์ฟิล์มแล้วรีดติดเสื้อโดยตรง โดยไม่ผ่านการพิมพ์ตรงแบบ DTG
พูดง่าย ๆ ว่า DTF กับ DFT ในบ้านเรา มักจะถูกใช้สลับกัน เพราะวิธีการโดยรวมคล้ายกัน เริ่มจากพิมพ์บนฟิล์มใส โรยกาวผง อบกาวจนละลาย แล้วนำไปรีดบนผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กระเป๋า หรือเนื้อผ้าที่ทนความร้อน
บางที่มีการปรับเกรดหมึก ใช้ฟิล์มเกรดต่างกัน หรือใช้วิธีอบกาวต่างกัน ซึ่งทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน นี่คือที่มาของการใช้คำว่า "DFT" แยกสาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่ามันคือฟิล์มพร้อมรีด
(https://i.postimg.cc/tTVDXw4z/A2.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)
ในกรณีที่มีคนถามผมว่า "สกรีน DFT ดีไหม" ผมต้องบอกเลยว่ามันมีข้อดีเพียบ แต่ก็ต้องดูว่าคุณสั่งจากที่ไหน และใช้ของเกรดอะไร ถ้าเลือกทำกับร้านที่ใช้หมึกคุณภาพ ฟิล์มคุณภาพ และกาวเกรดดี งานก็จะทนมาก ลวดลายคมชัด สีสดเหมือนต้นฉบับ ซักหลายครั้งก็ยังคงสภาพดี
แต่ถ้าเจอร้านที่เลือกใช้หมึกคุณภาพต่ำ กาวราคาถูก ฟิล์มเกรดต่ำ ความคงทนจะลดลง ซักไม่กี่รอบก็เริ่มลอก เริ่มซีด ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวเทคนิค แต่เกิดจากวัสดุและขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน
อีกจุดเด่นของ DFT คือ สามารถพิมพ์บนผ้าได้แทบทุกสี จะผ้าขาว ผ้าดำ หรือผ้าสีอะไรก็ทำได้ เพราะหมึกมีชั้นสีขาวรองพื้น พอรีดลงไปก็ได้สีชัดเหมือนพิมพ์บนกระดาษ
ที่ไม่เหมือนงานซิลค์สกรีนแบบเก่า เพราะ DFT ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่ต้องทำบล็อก ไม่ต้องไล่ผสมสีชั้นต่อชั้น เพียงมีไฟล์งานก็สามารถพิมพ์ได้ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ฟิล์มรีดลงผ้า
คราวนี้มาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง DTF กับ DFT หลายคนก็ยังสับสน ผมขออธิบายให้ฟังแบบสบาย ๆ คิดซะว่า DTF คือชื่อเทคนิคในตลาดโลก ในไทย DFT บางร้านใช้ทำตลาดเป็นฟิล์มพร้อมรีด เพื่อเน้นการตลาดให้ลูกค้ารู้ว่าพร้อมใช้
DFT ส่วนใหญ่หมายถึงฟิล์มที่ทำครบขั้นตอนแล้วพร้อมรีด ส่วน DTF บางครั้งหมายรวมถึงกระบวนการพิมพ์ทั้งหมด จะยังไม่โรยกาวหรือโรยแล้วก็ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสองคำนี้บางทีใช้แทนกัน และบางทีก็แยกกันใช้ชัดเจน
แล้วข้อดีอีกอย่างของ DFT/DTF คือ มันทำให้ร้านขนาดเล็กก็เริ่มทำงานพิมพ์ลายเสื้อได้ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องแพงระดับ DTG หรือเครื่องสกรีนอุตสาหกรรม เพียงแค่มีเตารีดร้อนหรือเครื่องฮีทเพรสก็ทำได้ ลูกค้าหลายคนชอบมากเพราะสามารถสั่งเพียงลายเดียวก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดขั้นต่ำเหมือนสกรีนบล็อก
ถ้าพูดในมุมของคนทำงานจริง ๆ คุณภาพงาน DFT/DTF ขึ้นอยู่กับ 3 อย่างหลัก ๆ คือ หมึก กาว และฟิล์ม หมึกควรเป็นพิกเมนต์เกรดดีเพื่อการพิมพ์ฟิล์ม สีต้องชัดและไม่ซีดเร็ว กาวต้องมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง ฟิล์มต้องหนาและใสในระดับที่เหมาะสม ไม่แตกหรือกรอบง่าย พิมพ์แล้วหมึกต้องไม่ไหลซึม เป็นเหตุผลว่าทำไมร้านที่ใส่ใจถึงเลือกวัสดุเหล่านี้
หากมีคนถามว่า "สกรีน DFT ดีไหม (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)" ผมบอกเลยว่าดีมาก ๆ สำหรับงานแฟชั่น งานของฝาก หรือแม้แต่งานโปรโมทกิจกรรม เพราะมันทำให้เสื้อดูเหมือนพิมพ์จากโรงงานใหญ่ แต่ใช้เวลาผลิตไม่นาน ต้นทุนต่อชิ้นต่ำกว่างานสกรีนหลายสี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด บางผ้าไม่สามารถใช้เพราะทนร้อนไม่ได้ หากรีดผิดวิธี เช่น อุณหภูมิไม่พอหรือกดไม่นานพอ ลายก็ไม่ติด
ถ้าให้ผมพูดถึงร้าน DFT คุณภาพในกรุงเทพฯ ผมก็ต้องพูดถึง "ร้านสกรีนโฮชิ" เพราะร้านนี้รับพิมพ์ฟิล์ม DFT ให้ลูกค้าเอาไปรีดเอง หรือจะให้ร้านช่วยรีดติดเสื้อก็มีบริการ หมึกและอุปกรณ์ที่ใช้ก็คุณภาพสูง ไม่ใช่วัสดุราคาถูกมาตัดราคาแบบบางร้าน ที่สำคัญคือร้านนี้อยู่ใจกลางเมือง แถวดินแดง ห้วยขวาง เดินทางสะดวก ใครอยู่กรุงเทพก็สามารถไปรับงานเองได้ และยังมีบริการจัดส่งทั่วประเทศแบบรวดเร็ว
(https://i.postimg.cc/BvzMf446/A3.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)
ผมเคยเห็นงานที่ร้านโฮชิทำ คือ สีคมกริบ ขอบเส้นคม ไม่มีหมึกเลอะ พอจับผิวงานแล้วมันสัมผัสเรียบ ไม่กระด้าง ซึ่งตรงนี้แหละคือจุดเด่นของ DFT ที่ผลิตอย่างพิถีพิถัน เพราะมันทำให้เสื้อใส่สบายไม่แข็ง ไม่เหมือนบางเทคนิคที่ทำให้ผ้าแข็งโป๊ก และที่สำคัญคือลูกค้าที่สั่งงานจากร้านนี้ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ซักกี่ครั้งก็ยังอยู่ ผมว่าเพราะเขาเลือกใช้ผงกาวเกรดพรีเมี่ยมกับหมึกพิมพ์เกรดดีจริง ๆ
อีกอย่างที่ผมชอบคือ ร้านโฮชิเขาไม่บังคับขั้นต่ำ คือสั่งแค่ 1 เมตรก็รับ หรือจะสั่งเป็น หลายร้อยเมตร ก็ได้ ถ้าลูกค้ารีบใช้ก็มีงานด่วนให้ ซึ่งสำหรับคนทำร้านเสื้อหรือผู้เริ่มทำแบรนด์นี่คือจุดเด่นสำคัญ เพราะบางทีเรามีออเดอร์ไม่เยอะ แต่อยากได้งานคุณภาพสูง ก็ประหยัดงบได้
พูดตรง ๆ เลยนะว่า ในวงการนี้ ร้านที่ทำ DFT คุณภาพดีจริง ๆมีไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่จะแข่งกันถูก ตัดต้นทุนหมึกและกาว แต่ผลลัพธ์คืองานเสียเร็ว พอลูกค้าเอาไปใช้แล้วเสียความรู้สึก กลายเป็นชื่อเสียงเสีย แต่ร้านสกรีนโฮชิเขาเลือกใช้ของดีทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าได้งานที่สมราคา ซึ่งผมมองว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขามีคนติดใจกลับมาซ้ำ
(https://i.postimg.cc/tJQk7k1G/A4.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)
สรุปแบบตรงไปตรงมาเลยนะ ถ้าคุณกำลังหาข้อมูลว่า "DFT ใช้ทำอะไร" ก็ให้คิดง่าย ๆ ว่ามันคือพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดติดผ้าได้เกือบทุกชนิด หลายรูปแบบมาก เหมาะกับงานออกแบบเสื้อ งานของที่ระลึก หรือแม้แต่งานยูนิฟอร์ม ถ้าถามว่า "
สกรีน DFT ดีไหม" ผมตอบได้เลยว่าดีมากถ้าทำกับช่างฝีมือดี และถ้าคุณยังงงว่า "DFT กับ DTF คืออะไรต่างกัน" ก็ให้จำว่า DTF เป็นชื่อกระบวนการหลัก ส่วน DFT ก็คือฟิล์มพิมพ์เสร็จพร้อมรีด แทบจะเอาไปรีดใช้ได้เลย และถ้าจะเลือกทำจริง ๆ ผมก็แนะนำ "ร้านสกรีนโฮชิ" เพราะเขาใส่ใจงานทุกชิ้น สีสด ทน ส่งไว และบริการดูแลดีมาก
ติดต่อร้านเรา HOSHI KAIZEN
เบอร์โทร 098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ : 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99-dft/)
อีเมล:
[email protected]