ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก “ลุงพล” 26 ปี คดีน้องชมพู่ คืนความยุติธรรมหลังต่อสู้กว่า 5 ปี

[deam205]

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาจำคุก "ลุงพล" รวม 26 ปี ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หลังการต่อสู้คดีนานกว่า 5 ปี เพื่อคืนความจริงและความยุติธรรมให้แก่ครอบครัว

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์: บทสรุปของคดีน้องชมพู่

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดยตัดสินให้นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" จำเลยที่ 1 มีความผิดใน 3 ข้อหาสำคัญ ซึ่งรวมโทษจำคุกทั้งหมดเป็นเวลา 26 ปี ได้แก่:
[ul]

• ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล: โทษจำคุก 15 ปี
• พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา: โทษจำคุก 10 ปี
• กระทำการต่อศพหรือสภาพแวดล้อมก่อนการชันสูตร: โทษจำคุก 1 ปี

[/ul]
ในขณะที่ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ "ป้าแต๋น" จำเลยที่ 2 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา

เบื้องหลังการสืบสวนคดี: การทำงานที่รอบด้านกว่า 5 ปี

เบื้องหลังคำตัดสินนี้คือการทำงานของคณะทำงานสืบสวนที่ใช้เวลานานกว่า 5 ปี ในการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบด้านและเป็นระบบ โดยมีหลักฐานสำคัญที่ประกอบกัน เช่น หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พยานบุคคล และ ข้อมูลเชิงลึก ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทีมสืบสวนได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ได้มุ่งเป้าที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่พิจารณาจากหลักฐานที่รวบรวมมาเท่านั้น เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมที่สุด

ความหมายของคำตัดสิน: การคืนความจริงและศักดิ์ศรี


คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งนี้มีความหมายมากกว่าแค่การตัดสินลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังเป็นการ คืนความจริง ให้กับครอบครัวของน้องชมพู่ที่ต้องต่อสู้และเผชิญกับความเจ็บปวดมานานกว่า 5 ปี แม้ว่าคำตัดสินจะไม่สามารถพาน้องกลับมาได้ แต่ก็เป็นการยืนยันว่าผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย และยังถือเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่ทำงานหนักด้วยความยุติธรรม

สรุป

คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในคดีน้องชมพู่ได้ปิดฉากการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนาน โดยมีคำพิพากษาจำคุก "ลุงพล" รวม 26 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานอย่างรอบด้านของเจ้าหน้าที่บนพื้นฐานของพยานหลักฐานอย่างแท้จริง และยังเป็นการคืนความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของผู้สูญเสีย