• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

ประเภทการสกรีนเสื้อมีอะไรบ้าง ? คำตอบจาก HOSHI Kaizen

Started by Jenny937, Aug 11, 2025, 08:57 PM

Previous topic - Next topic

Jenny937


เวลาที่เราพูดถึง การผลิตเสื้อสกรีน หลายคนอาจนึกถึงแค่ การพิมพ์ลายแล้วรีดให้ติดบนผ้า แต่ความจริงคือ โลกของการสกรีนเสื้อ ไม่ใช่แค่นั้นจริง ๆ และมีวิธีการหลากหลายให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่า งานต้องการรูปแบบไหน ใช้กับเนื้อผ้าประเภทใด อยากให้ทนทานแค่ไหน หรือแม้แต่ ความรู้สึกตอนสัมผัส แพทเทิร์นบนผ้า ก็สำคัญเหมือนกัน คนที่เพิ่งเริ่มสนใจก็มักจะสงสัยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" จริง ๆ แล้ว บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า "สกรีนจม" และ "สกรีนลอย" แต่ไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไง วันนี้ ผมจะพาไล่ตั้งแต่พื้นฐาน ครบถ้วนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เพื่อให้คุณเข้าใจและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับงานได้.



เริ่มจาก คำถามยอดฮิต อันดับแรกเลยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" เอาจริง ๆ แล้ว ถ้าพูดถึงทุกเทคนิคในยุคนี้ มีจำนวนเยอะมาก แต่ถ้าแบ่งแบบหลัก ๆ ที่นิยมใช้กัน จะประกอบด้วย เทคนิคซิลค์สกรีน, ฮีตทรานเฟอร์ (Heat Transfer), เทคนิคซับลิเมชัน, DTG (Direct to Garment), DTF (Direct to Film), เทคนิคเฟล็กซ์ นอกจากนี้ยังมี เทคนิคย่อยอื่น ๆ เช่น ฟอยล์, ปั๊มนูน, พัฟสกรีน ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบก็มี ลักษณะงาน, ความทนทาน, ต้นทุน และข้อดีข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น การพิมพ์ซิลค์สกรีนเหมาะสำหรับงานล็อตใหญ่ เพราะราคาต่อชิ้นถูกและสีคงทน แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำบล็อกก่อน สำหรับ DTG นั้นจะพิมพ์ลงบนผ้าโดยตรง เหมาะกับงานที่เน้นความละเอียดและปริมาณน้อย เพราะไม่ต้องผ่านขั้นตอนการทำบล็อก สามารถพิมพ์ได้ทันทีจากไฟล์ ส่วน DTF ก็กำลังฮิต เนื่องจากสามารถพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดบนผ้าได้หลากหลาย สีสดและทนดีมาก



ต่อไปคือเรื่องที่หลายคนยังสับสน "สกรีนจม คือ อะไร" สกรีนจมก็คือ วิธีการพิมพ์หรือสกรีนที่ทำให้เนื้อหมึกซึมเข้าไปในเส้นใยผ้า ส่งผลให้เวลาสัมผัสผ้ารู้สึกเรียบ เหมือนไม่มีอะไรพิมพ์อยู่ด้านบน ตัวอย่างเช่น การพิมพ์แบบซับลิเมชันบนผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือการสกรีนด้วยหมึกบางชนิด โดยหมึกจะซึมเข้าเนื้อผ้า หลังซักก็ยังคงอยู่ เพราะไม่หลุดลอกได้ง่าย ใส่แล้วรู้สึกสบาย เนื่องจากไม่มีชั้นหมึกหนา ข้อดีคือทนต่อการซักมาก สีคงทน เหมาะกับงานที่เน้นความคงทนในระยะยาว




ตรงกันข้ามกับแบบสกรีนจม "สกรีนลอย คือ" เทคนิคสกรีนที่ทำให้หมึกหรือลวดลายคงอยู่บนพื้นผิวผ้า ในลักษณะที่มองเห็นความนูนชัดเจน เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความสูงต่ำ ตัวอย่างเช่นการใช้หมึกพัฟ (Puff Ink) ซึ่งเมื่ออบแล้วหมึกจะฟูขึ้นมานุ่มนวล หรือการพิมพ์ด้วยเฟล็กซ์ ซึ่งใช้ฟิล์มตัดลายแล้วนำมารีดติดบนเนื้อผ้า ข้อเด่นของสกรีนลอยคือ ลวดลายจะเด่นชัด สีสวยสด พร้อมทั้งทำเอฟเฟกต์พิเศษได้ อย่างความเงา, ความนูน หรือผิวสัมผัสแบบมีเท็กซ์เจอร์ อย่างไรก็ตามข้อเสียคือ หากดูแลไม่เหมาะสมหรือซักแรงเกินไป อาจทำให้หมึกแตกหรือฟิล์มลอกได้ง่ายกว่าแบบสกรีนจม



การเลือกว่าจะใช้สกรีนจมหรือสกรีนลอย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน หากอยากให้เสื้อใส่สบาย ลายไม่ทำให้ผิวรู้สึกสะดุด และทนต่อการซักระยะยาว สกรีนจมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการงานที่โดดเด่น มีลูกเล่น พร้อมโชว์ลายเด่นชัด สกรีนลอยก็น่าสนใจมาก และปัจจุบันยังมีการผสมผสานทั้งคู่ บนเสื้อตัวเดียว เพื่อให้ได้ทั้งความทนทานและความสวยงาม

ในประสบการณ์ของผม ลูกค้าหลายคนที่มาทำเสื้อกับร้านสกรีน มักจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวเลือกมันเยอะมาก พอถามว่าสกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็มักจะได้คำตอบกว้าง ๆ โดยไม่รู้รายละเอียดจริง ๆ ซึ่งหากเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ก็จะบอกความต้องการกับร้านได้ตรงขึ้น เช่น ถ้าอยากทำเสื้อทีมฟุตบอลที่ต้องซักบ่อยและไม่อยากให้ลายลอก ก็อาจเลือกสกรีนจมด้วยหมึกที่ซึมเข้าเส้นใย ถ้าอยากทำเสื้อแฟชั่นลายเด่น ก็ใช้เทคนิคสกรีนลอย หรือใช้เฟล็กซ์แบบเงาเพิ่มลูกเล่น

ผมเคยเห็นบางงานที่เป็นเสื้อยืดพรีเมียม ใช้เทคนิคซิลค์สกรีนหมึกน้ำลงบนผ้าฝ้ายจนหมึกซึมเข้าไปในเนื้อผ้า กลายเป็นสกรีนจมที่เนียนมาก ซักแล้วไม่ซีดง่าย ยังคงสวมสบายเพราะผ้ายังระบายลม ในขณะที่งานแฟชั่นสตรีทหลายแบรนด์ก็ชอบใช้หมึกพัฟหรือเฟล็กซ์ เพื่อให้เกิดสกรีนลอยมีมิติ มองหรือสัมผัสแล้วรู้สึกว่าพิเศษกว่าเสื้อพิมพ์ทั่วไป

อีกอย่างที่หลายคนไม่รู้คือ ทั้งสกรีนจมและสกรีนลอยไม่ใช่เทคนิคแบบตายตัว บางทีช่างสกรีนจะปรับสูตรหมึกหรือวิธีพิมพ์ เพื่อให้ได้สกรีนกึ่งจมกึ่งลอย เช่น ใช้หมึกที่ซึมเข้าเนื้อผ้าบางส่วน แต่ยังเหลือชั้นบาง ๆ บนผิวให้เห็นนูนเล็กน้อย ทำให้ได้ทั้งความทนและความรู้สึกพิเศษเวลาสัมผัส

แล้วถ้าเรามองในแง่การใช้งานจริง การรู้ว่าสกรีนเสื้อมีกี่แบบ สามารถช่วยให้ประเมินราคาได้อย่างแม่นยำ เพราะแต่ละเทคนิคมีต้นทุนต่างกัน เช่น ซิลค์สกรีนถ้าผลิตจำนวนมากจะถูกลงมาก ในกรณีทำไม่กี่ตัว DTG หรือ DTF คุ้มกว่าเนื่องจากไม่ต้องทำบล็อก สกรีนลอยบางชนิดต้องใช้ทั้งเครื่องตัดเฟล็กซ์และเครื่องรีดคุณภาพดี เพื่อให้ฟิล์มติดทนและไม่หลุดง่าย สกรีนจมบางประเภทต้องใช้เครื่องอบและหมึกพิเศษซึ่งมีราคาสูง

ในฐานะคนที่ชอบเสื้อสกรีนและเคยทำทั้งเพื่อใส่เองและขาย ผมเห็นว่าความเข้าใจพื้นฐานพวกนี้สำคัญจริง ๆ ถ้าทราบว่าสกรีนจม คือ อะไร สกรีนลอย คือ อะไร และสกรีนเสื้อมีกี่แบบ จะทำให้สั่งงานได้แม่นตรงตามต้องการ และไม่ผิดหวังเมื่อได้รับของ ยิ่งถ้าเราเจอร้านที่ยินดีอธิบายและให้คำแนะนำแบบตรงไปตรงมา และบอกข้อดีข้อเสียแต่ละเทคนิคอย่างละเอียด เราก็จะได้งานที่ลงตัวทั้งคุณภาพ ความสวย และงบ

จริง ๆ แล้วการเลือกเทคนิคสกรีนก็เหมือนการเลือกวัตถุดิบทำอาหาร ถ้าเราเลือกถูกตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็จะออกมาดีและใช้งานได้ตรงใจ อย่างเสื้อสกรีนที่ดีไม่ใช่แค่สวยตอนใหม่ ๆ แต่ต้องคงความสวยและความทนไปได้นาน การรู้ความต่างของสกรีนจมกับสกรีนลอยจึงเป็นเหมือนความรู้พื้นฐานที่คนทำเสื้อทุกคนควรมี

ข้อมูลติดต่อร้าน HOSHI KAIZEN
เบอร์โทรศัพท์: 098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ: 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com
(สามารถติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา)
อีเมล: [email protected]

Panitsupa

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก ร้านสกรีนโฮชิ

Fern751

สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ? คำตอบจาก HOSHI Kaizen

Jessicas

งานสกรีนเสื้อมีแบบไหนบ้าง ? คำตอบจาก โฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ